วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

โยชิโมโต้+LOVEis เปิดตัว SWEAT16!อีกที 4 เดือนที่ผ่านมาคือ?


ช่วงต้นเดือน ก.พ. 2018 ที่ผ่านมา หลังจากปล่อยให้เดือนมกราคม 2018 เงียบเหงากันไป จู่ๆ ค่าย โยชิโมโต้ และ LOVEis ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง แต่ไม่ใช่การสานต่อจากสิ่งที่ทำอยู่ก่อนแต่เหมือนกับการแนะนำวง SWEAT16! ใหม่กับสื่อมวลชนอีกครั้ง... จนผมสงสัยว่าที่ผ่านมามันคือ อะไร?



หากยังจำกันได้ โยชิโมโต้ และ LOVEis ได้ทำการเปิดตัว SWEAT16! ในงาน SPORT DAYS เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2017 ซึ่งหลายคนก็รู้ดีว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะอย่างแรงเพราะเดือนตุลาคม 2017 ไม่ใช่เวลามาบันเทิงอะไรเลย ซึ่งแม้แฟนคลับจะไม่แคร์โลกมาก แต่สื่อมวลชนกระแสหลักก็ชัดเจนว่าไม่เอาด้วยเลย

แล้วพอ พ.ย. 2017 โยชิโมโต้ และ LOVEis  ก็พยายามจะจัดกิจกรรมต่อเนื่องมาเรื่อยๆ มีการปล่อย MV วิ่ง, มุ้งมิ้งออกมา แต่จนจบปีก็ถือว่าไม่แรงมากมายอะไร และพอเข้ามกราคมก็แทบไม่มีกิจกรรมอะไร เว้นแต่การไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้ ภ. SENSEI กับโปรโมทงาน OKINAWA FILM FESTIVAL ซึ่งตามตรงคือ ไม่ค่อยเกี่ยวกับวงมากมายอะไร คือไปโชว์ตัวในฐานะผู้โปรโมทสินค้าของค่ายภายนอก ไม่ได้ในฐานะ "วงไอดอล" เว้นแต่การปรากฏตัวที่งาน JAPAN EXPO ปลายเดือนมกราคม 2018 งานเดียวที่ถือว่าไปออกงานในฐานะ "วงไอดอล" เรียกว่าค่ายปล่อยเวลาให้ผ่านไปเฉยๆ ไม่พยายามสร้างความรับรู้แก่คนที่ยังไม่ใช่แฟนเท่าไหร่ คือ หากไปหน้างานก็จะเห็นว่ามีแฟนคลับเดนตายมาตามตั้งแต่ยังไม่เดบิวต์เลยด้วยซ้ำ แต่ก็มีจำนวนนึงซึ่งคนไปหน้างานบ่อยๆ ก็แทบจะคุ้นหน้ากันแล้วล่ะผมว่า

การที่จู่ๆ พอเข้าก.พ.2018  วงSWEAT16! เริ่มไปออกงานตามที่ต่างๆ มากขึ้น และไปปรากฎตัวในงานคอนเสิร์ตของค่าย LOVEis โดยเล่นที่เวทีรอบนอก ไม่ได้ขึ้นเป็นศิลปินในงานโชว์ใหญ่ ซึ่งวันนั้นมีหลายคนที่เป็นสาวกค่าย LOVEis ได้เห็นพวกเธอเป็นครั้งแรก....

SWEAT16! นี่ตกหล่นในสายตาสาวกค่ายเพลงLOVEis เสียขนาดนั้นเลย

แล้วเหตุผลกลใดก็ไม่รู้ที่หลังจากปรากฎตัวที่คอนเสิร์ตเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2018 จู่ๆ ภายใน 1 สัปดาห์หลังจากวันนั้น SWEAT16! ก็มีปรากฎตัวบนหน้านสพ. มากขึ้น แต่กลายเป็นว่า "เปิดตัววง" ซึ่งจริงๆเปิดตัวตั้งแต่ 4 เดือนก่อนแล้ว ทำไมจึงต้องเปิดตัววงอีกครั้ง?

คำถามนี้คงต้องรอถามหัวเรือใหญ่ของทั้ง 2 ค่าย

แต่ถ้าให้ผมเดาเองนะครับ ซึ่งไม่น่าจะถูกต้อง 100% หรอก

1. ทำเพื่อต้องการ Re-Image 
หากยังจำได้ วันที่เปิดตัวในวัน SPORT DAYS นั้น ผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ค่ายบอกจะเปิดตัวในฐานะไอดอลที่เน้นการออกกำลังกาย เป็นไอดอลด้านการกีฬา กิจกรรมที่ผ่านมาของ SWEAT16! ก็มีไปวิ่งที่งาน PHUKETHON มา ซึ่งวันที่เน้นแต่เพลง "วิ่ง" นั้นมันก็เหมาะมากแหละครับ แม้ MVจะออกมาแปลกๆ ที่น่าจะเป็นการเก็บฟุตเตจหรือมีการวิ่งของเมมเบอร์มากกว่านี้ก็ตามที แต่ในเมื่อซิงเกิ้ลที่ 2 กลายเป็นเพลง "มุ้งมิ้ง" คอนเซปต์ของเนื้อเพลงก็เปลี่ยนไปเป็น "เด็กสาวที่กำลังจะไปเดท" ตามแบบเด็กสาวทั่วไปนั้น ในแว่บแรกก็รู้สึกว่า "เออ แบบนี้ก็น่ารักดีนะ" แต่ในอีกแง่นึง "ไหนล่ะ การกีฬา" คือ ผมเองก็ไม่ได้อยากจะให้ยึดติดกับคอนเซปต์มากหรอก แต่ช่วยไม่ได้ที่เขาออกตัวแบบนั้นมาแต่แรก ในเมื่อเพลงต่อๆไป ไม่เกี่ยวกับกีฬาแล้ว  (ซึ่งเอาจริงๆ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแต่งเพลงให้ทุกเพลงเป็นคอนเซปต์เดียวกันทุกเพลง ขนาดวงที่เน้น คอนเซปต์แปลกๆ แบบวงต่างประเทศ ยังไม่สามารถ Keep คอนเซปต์ได้ยาวนานนักหรอก)  เท่ากับขัดกับคอนเซปต์ตัวเองไปดื้อๆ ดังนั้น หากเพลงต่อไปไถลไปในทางอื่นอีก มันก็จะมีแต่จะยิ่งหากจากคอนเซปต์แรกไปอีกแน่ๆ

ดังนั้นการรื้อคอนเซปต์แรกทิ้งไปน่าจะง่ายกว่า (มั้ง)

จริงๆ แล้ว หากตอนแรกบอกว่า SWEAT16! เป็นวงไอดอลแบบสดใสเน้นเพลงเร็ว และเน้นการแสดงอะไรไป แล้วบอกว่า ซิงเกิ้ลแรก "วิ่ง" เป็นคอนเซปต์เกี่ยวกับการวิ่งสู่ฝันแล้วมันก็จบแล้ว เพราะซิงเกิ้ลต่อไปจะเป็นเพลงอะไรก็เปลี่ยนยูนิฟอร์มเปลี่ยนคอนเซปต์ได้เรื่อยๆ การไปผูกว่าตัวเองเป็นใครแต่แรก มันก็ขยับตัวยาก ผมคิดว่าเขาอาจจะต้องการ Re Image วงอีกที เพื่อเอาตัวเองออกจากบ่วงโซ่ที่พันตัวเองไปก็ได้ ขนาดวงดังๆ อย่างเคยากิซากะ46 เขายังกล้าเปลี่ยนอิมเมจจากชุดทหารเป็นชุดสูทแบบหนุ่มออฟฟิศได้เลยนี่ จะเปลี่ยนยูนิฟอร์มไปเรื่อยๆ มันไม่แปลกแล้ว

2. เพราะตอนแรกไม่มีคนสนใจเลยขอเปิดตัวอีกที เมื่อกระแสดี
ต้องยอมรับนะครับ ว่านอกสังคมโอตาคุแล้ว วงไอดอลเล็กใหญ่จากญี่ปุ่นก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรในวงการสื่อมวลชนไทยเลย เรียกว่ารู้จักน้อยมากๆ (ยิ่งวงเล็กๆ ในไทยยิ่งไม่แล) แต่พอวงญี่ปุ่นในเมืองไทยอย่าง BNK48 เกิดเปรี้ยงปังขึ้นมา สื่อมวลชนไทยหลายต่อหลายเจ้าที่ไม่เคยคิดจะเสียสละพื้นที่ข่าวให้ ก็เริิ่มเปิดกว้างเปิดใจให้มากขึ้นแล้ว หลังจากทำเป็นมองไม่เห็นไม่ใส่ใจมานาน (ขอบคุณความสำเร็จของ"Koisuru Fortune Cookies คุกกี้เสี่ยงทาย" ของ BNK48) ก็ต้องยอมรับว่าหลายปีที่ผ่านมา วงการเพลงไทยค่อนข้างซบเซา คนทั่วไปรู้จักแต่เพลงไม่รู้จักศิลปินเลย เรียกว่า อยู่ในระดับไม่ถูกใส่ใจมากนัก อย่าว่าแต่ SWEAT16! เลย ถ้าคุณไม่ใช่วงแม่เหล็ก หรือ ตัวพ่อตัวแม่ ก็ไม่มีใครแคร์เท่าไหร่ ซึ่งการที่เพลง "Koisuru Fortune Cookies คุกกี้เสี่ยงทาย" ของ BNK48 เปรี้ยงปังขึ้นมา ก็ทำให้สื่อเจ้าไหนก็มองว่า "ถ้าจับข่าวไอดอลบ้าง คนก็สนใจจะอ่านนะ" แม้จะดูแปลกๆ ไปบ้าง แต่ถ้าการเกาะกระแสทำให้วงอะไรสักวงอยู่ในกระแสความสนใจได้ก็ไม่ผิดหรอก

นั่นมันก็เรื่องของการคาดคะเนนะครับ อย่าใส่ใจมาก

-------------------------------------------------------
ต่อไป 

ทำไม Sweat16! ถึงยังไม่ปังในหมู่แฟนคลับไอดอล (จุดอ่อนที่จ่ากบคิดไปเองคนเดียว) 

อยากแชร์ความคิดว่าทำไม SWEAT16! ถึงไม่เปรี้ยงปังในวงวานโอตาคุไอดอลวงไทยที่เพิ่งมาสนใจไอดอลเร็วๆนี้ ซึ่งอันนี้ผมวิเคราะห์เองนะครับ ไม่ได้คาดหวังจะให้ทุกคนคิิดเห็นแบบนี้ตามผมด้วยเลย เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น เห็นต่างกันได้นะ แต่ขอความกรุณาแสดงความคิดเห็นของตัวท่านเองแทนการโต้แย้งเถอะครับ

1. ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งของ BNK48 เลยถูกแฟนของวง BNK48 มองในแง่ไม่ดี (หรือเปล่า?)

คือ ผมไม่รู้นะว่าจริงๆ แล้วมันเป็นอย่างไร แต่ในมุมมองของผมแล้ว คนไทยน่าจะชอบแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมั้ง? เหมือนกับสังคมหนังฮีโร่ เป็นแฟน MARVEL ห้ามเชียร์ DC หรือเป็นแฟน DC ก็ห้ามเชียร์ MARVEL เป็นแฟนบอลทีมไหนก็ต้องคอยไปถากถางแฟนบอลอีกทีมที่เพิ่งแข่งแพ้กันไปในเช้าหลังแมตช์ที่เตะกัน คือ รอบตัวผมมีคนแนวที่ว่าอยู่เยอะมาก คือชอบแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ซึ่งวงการเพลงก็มีนะครับ หลายสิบปีก่อน ถึงขนาดแข่งกันทำรายการเพลง / รายการวิทยุ เพื่อเปิดแต่เพลงค่ายตัวเองก็มีมาก่อน คือ อารมณ์ว่าศิลปินจากคนละค่าย = คู่แข่งทางการค้า ต้องถล่มกันให้ตายไปข้างนั้น ไม่รู้มันฝังหัวใครมาตั้งแต่สมัยไหน?

ดังนั้น แม้จะไม่มีการประกาศว่า SWEAT16! จะแข่งกับใครเลย แต่การที่ SWEAT16! ไม่ใช่วงในนามสกุล 48 ก็ "อาจจะ"ถูกแฟนคลับของBNK48 "บางส่วน" มองว่าเป็นคู่แข่งของ BNK48 ไปโดยปริยายไปแล้ว (แต่แฟนวงพี่ไม่รู้คิดอย่างไรนะ พวกคุณไม่เกี่ยวนะผมไม่ได้พูดถึงพวกคุณ อย่าเดือดใส่ผม) แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างเชียร์มันก็ไม่มีปัญหาหรอก ปัญหาที่ผมมองเห็นคือ การปิดกั้นโอกาสเข้าถึงของตนเองและปิดกั้นคนที่ยังไม่เลือกฝ่ายมันเป็นเรื่องที่แย่ หรือ การมองวงไอดอลวงนึงว่าต้องทำเหมือนไอดอลอีกวงนึง ต้องมีอะไรคล้ายๆ กัน ไม่งั้นก็แข่งกันไม่ได้นะ บลาๆ นั้น มันจำเป็นด้วยเหรอ?

แต่ถ้าถูกมองแบบนั้นไป แต่ไม่อยากให้มองว่าเป็นศัตรู ทางค่ายต้องหาวิธีเปลี่ยนความคิดฝังหัวของแฟนคลับวงอื่นให้ได้ครับ เพราะถ้าช่างหัวเขา เขาก็ช่างหัวคุณ


2. มีคนนำเอาคอนเซปต์บางส่วนของไอดอลวงอื่นมาใช้เป็นบรรทัดฐาน จึงทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน (หรือเปล่า)

ตัวผมเอง สตาร์ทการตามวงการไอดอลเพราะ AKB48 ซึ่งมีกิจกรรมมากมาย และ มีคอนเซ็ปต์มีสไตล์ที่เฉพาะตัวกว่าไอดอลวงอื่นเขามากๆ แต่เมื่อได้ติดตามไอดอลวงอื่นๆ แล้ว ความคิดว่า AKB48 = ไอดอลมาตรฐานนั้น ก็ได้ถูกลบออกจากหัวไป (ตอนนี้ผมดูได้ทุกวง และไม่ได้ชอบAKB48เท่าสมัยที่ตามแรกๆแล้ว)

 เพราะแม้AKB48 จะเป็นต้นแบบงานจับมือ งานพบปะแฟนๆ ให้วงที่ตามมาทีหลัง 

แต่ไอดอลที่ยังไม่เพอร์เฟคนั้นเป็นคอนเซปต์บางส่วน (ในอดีต) ของAKB48, วงอื่นไม่ได้มีกติกาว่าจะต้องทำตามทุกวง

คือ สำหรับคนที่ตาม SWEAT16! อยู่แล้วคงไม่ต้องพูดอะไร แต่อยากบอกคนที่อยากจะตามพร้อมกัน 2 วง หรือหาเหตุผลที่จะมาชอบ SWEAT16! นั้น อยากให้อ่านตรงนี้สักนิดนะครับ

การเหมาว่า "ไอดอล = ตัวตนที่ไม่สมบูรณ์แบบ = คนที่เราควรเอาใจช่วย" นั้นอาจจะเป็นการจำกัดความคิดไปนิดนึง การมองว่า "ไอดอลที่เต้นเก่งแสดงเก่งแล้ว = ไอดอลที่ไม่ต้องไปให้กำลังใจ" ก็เป็นอะไรที่น่าเสียใจแทนไอดอลทุกวงที่เขาพยายามฝึกซ้อมมาให้เก่งจนออกงานแล้วน่าประทับใจนะครับ (เมมเบอร์ของ48เองก็เก่งขึ้นทุกวัน วงน้องของAKB48หลายๆ วง เมมเบอร์ก็มากความสามารถ) คือ แต่ละวงเขาก็มีแนวคิดแตกต่างกัน

เอาแบบไอดอลญี่ปุ่นอย่าง เคยากิซากะ46 สิครับ ตอนแรกที่ออดิชั่นเป็นเมมเบอร์วง, หลายๆ คนก็ไม่เก่งหรอก แต่เขาฝึกซ้อมหนักมาก และเวลาที่ออกซิงเกิ้ลก็มีท่าเต้นที่อลังการงานสร้าง จนซิงเกิ้ลแรกก็เปรี้ยงปัง ก็เป็นไอดอลแบบนึงหรือเปล่าครับ? ผมไม่ได้บอกว่า SWEAT16! คือ เคยากิซากะ46 แต่อยากให้มองว่าในวงการเพลงญี่ปุ่น หรือ ดูจากวงไอดอลหลายวง ที่มาแสดงในงาน JAPAN EXPO สิครับ ไอดอลทุกคนพยายามเต็มที่ ที่จะสร้างความประทับใจแก่คนดูหรือเปล่า ทุกวงเขาพยายามเต็มที่ แสดงให้พร้อมเพรียงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะนี่คือการโชว์ "ตัวตน" ในต่างประเทศ อาจจะไม่มีแฟนคลับตามมาให้กำลังใจก็ได้ แต่ก็ต้องสร้างแฟนใหม่ๆ ให้ได้ แบบนี้ก็น่าให้กำลังใจหรือเปล่าครับ?  หากคุณสนใจแค่คนที่ยังไม่เก่ง พอถึงวันที่ไอดอลคนนั้นเก่งขึ้น คุณจะเลิกชอบเขาหรือเปล่าครับ?

3. SWEAT16! เป็นวงที่ควรไปพบหน้าคาตากันที่สถานที่จริง
  
(คนที่ไม่มีโอกาสไปเจอ เลยยังไม่โดน)


ต้องยอมรับเลยครับว่า SWEAT16! เป็นวงไอดอลที่ต้องไปเจอตัวจริงสักครั้งนะ คือ ด้วยความที่กล้องของแฟนคลับเองก็ไม่ได้เก็บความประทับใจได้หมดหรอก เพราะภาพวิดีโอก็มีแต่คนถ่ายการแสดง ช่วงการพูดคุยนั้น หากพิธีกรทำงานไม่สนุกก็จะหาเสน่ห์ของน้องๆ ไม่เจอ แต่ถ้าคุณได้ไปพบตัวจริง ไม่ว่าจะการแสดง หรือ งานแตะนิ้ว ได้ลองทำความรู้จักเจ้าตัวตรงๆ ดู คุณอาจจะพบเจอเมมเบอร์ที่คุณชอบใจก็ได้ครับ มันเป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัวจริงๆ นะ

แต่เพราะไม่ค่อยมีคนได้ไปสัมผัสในสถานที่จริง ก็จึงไม่แปลกที่แฟนคลับจะมีจำนวนไม่มากแบบเวลานี้ คือเมมเบอร์ SWEAT16! นั้นก็มีความเป็นกันเองกับแฟนคลับนะครับ หากไม่มีจังหวะไปเจอสักทีล่ะก็ ผมว่าลองติดต่อกันผ่านโซเชี่ยลมีเดียก่อนก็ได้นะครับ เมมเบอร์จะไล่ตอบคอมเมนต์เท่าที่เขาทำได้ ถ้าคุณชอบการสื่อสาร 2 ทางก็ลองดูนะครับ และแนะนำเลยว่า ลองไปเจอตัวจริงสักครั้ง ชอบไม่ชอบค่อยตัดสินใจหลังเจอนะ

4. การPRของ SWEAT16! ย้ังไม่ดีพอ บอกช้าคนไปดูงานก็ลำบาก แล้วก็ยังไม่มีอะไรจะโดนใจทีมหน้าจอจนถึงบัดนี้

การมาของ BNK48 นั้น ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์แก่ใครหลายคน (ทำให้คนทั่วไปมาชอบไอดอลได้) และในโลกที่การสื่อสารออนไลน์เจริญก้าวหน้า การที่จะมี #ทีมหน้าจอ เกิดขึ้นมากตาม นั่นก็เป็นเรื่องที่ปกติสามัญเสียเหลือเกิน แต่ความที่ SWEAT16! ไม่ค่อยมีการ Facebook Live การแสดง ก็ทำให้ #ทีมหน้าจอ ไม่เห็นความดีงามของการแสดงเลย แม้จะมี Facebook Live จากในสตูดิโอบ้าง แต่ก็เป็นคอนเทนต์วาไรตี้ หลายคนไม่คิดจะหาดูแฟนแคมบันทึกการแสดงที่แฟนคลับถ่ายมาหรอกครับ ผมก็ว่า #ทีมหน้าจอ จะคิดแบบนั้นเขาก็คิดได้ ออฟฟิศเชี่ยลของ SWEAT16! ก็ควรจะ Liveจากการแสดงสดเองบ้าง เรียกว่าทีมงานของ SWEAT16! มีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีกมากครับ คือจะทำให้มีแฟนคลับหน้าใหม่เพิ่มได้ มันต้องลองหลายๆ อย่างนะครับ รายการอะไรต่างๆ ก็มีความจำเป็นต้องทำนะ แต่ผมว่าทีมงานไม่ขยันทำอะไรพวกนี้เลย นี่แหละทำไมถึงยังไม่เป็นที่รู้จัก ต้องทำการPRหรือหาช่องทางรับชมให้แฟนคลับเยอะๆ ครับ

แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้งาน PR เป็นจุดอ่อนของ SWEAT16! เลยล่ะ ที่ผ่านมาก็มีคนไม่พอใจในนู่นนั่นนี่เยอะนะ อยากให้ปรับปรุงหนักๆ

5. เพลงของ SWEAT16! ในเวลานี้ยังไม่โดนใจ

อันนี้เป็นประเด็นสำคัญมากๆ ด้วยความที่ วิ่ง, มุ้งมิ้งและอีกหลายเพลงของ SWEAT16! ไม่ได้เป็นเพลงมหาชนแบบที่เพลงที่BNK48เลือกเพลงจาก AKB48 มาใช้นั้น ก็เป็นจุดอ่อนที่ใหญ่มากๆ คือ สำหรับคนที่ชอบดูจิกะไอดอล หรือ ไอดอลอินดี้ของญี่ปุ่นแล้วนั้น เพลงของ SWEAT16! ไม่ได้ฟังยาก และเป็นเพลงที่เร็ว เชียร์สนุก มิกซ์ได้มันส์มาก แต่ในแง่ความติดหูแล้ว ผมว่าเพลงของ SWEAT16! ในเวลานี้ยังไม่สามารถละลายน้ำแข็งในใจคนฟังส่วนใหญ่ในประเทศไทยได้ หากว่า LOVEis ของคุณบอยด์ จะสามารถเอาเพลงสมัยค่าย Dojo City หรือเพลงไทยเพลงอื่นๆ มาให้ปรับดนตรีใหม่ให้เข้ากับวงสายแดนซ์อย่าง SWEAT16! ได้ ผมว่าน่าจะมีคนมาเป็นแฟนคลับเพิ่มได้อีกในไม่ช้าครับ

ไหนๆ ก็คล้ายว่า ทีมงานจะเริ่มต้นใหม่แล้ว ก็อยากให้ต่อจากนี้ทำอะไรที่กำจัดจุดอ่อนไปพร้อมกันเลย น่าจะดีนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม