ป้ายกำกับ
akb48
(147)
HKT48
(51)
NMB48
(37)
SKE48
(35)
keyakizaka46
(31)
nogizaka46
(24)
sweat16
(23)
shimazaki haruka
(21)
sashihara rino
(20)
BNK48
(16)
NGT48
(14)
miyawaki sakura
(12)
Team 8
(5)
SNH48
(2)
วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560
[ดูมาแล้วอยากเล่า] องค์บาก LIVE
แม้องค์บาก LIVE จะเปิดการแสดงต่อเนื่องที่ ULTRA ARENA ชั้น 6 ของห้าง SHOW DC มาหลายเดือนแล้วก็ตามที (เริ่ม ตอน ก.พ. 2017) แต่โดยส่วนตัวไม่ได้มีโอกาสไปดูเท่าไหร่ แต่โชคดีที่ไปร่วมสนุกชิงรางวัลกับบูธของห้าง SHOW DC ที่งาน VIRAL MUSIC FESTIVAL มาเมื่อ 3 มิถุนายน 2017 แล้วได้รางวัลเป็นตั๋วเข้าชม ก็เลยได้ไปเปิดหูเปิดตากับเขาเสียที
โดยการแสดงนั้นจะมีทุกวันอังคาร-อาทิตย์ ในเวลา 20.00 น. เวลาแสดงประมาณ 90 นาที สรรสร้างโดยทีมงานไทย โดยมีลักษณะเป็น LIVE STAGE PERFORMANCE คือ เป็นละครเวทีที่อุดมด้วยฉากต่อสู้ และ ในเมื่อไม่ได้มีกลุ่มผู้ชมจำกัดแต่ชาวไทย ละครจึงออกมาในลักษณะที่แทบไม่มีบทสนทนา แต่ก็สามารถดำเนินเรื่องได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าคนชาติไหนก็สามารถดูได้เข้าใจครับ
STORY
โดยเนื้อเรื่องแล้ว ก็มีลำดับเนื้อหาตามฉบับภาพยนตร์ที่ จา พนม เคยแสดงเอาไว้ โดยเริ่มจาก หมู่บ้านแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ซึ่งวันนั้นเป็นวันพิธีท้องถิ่น โดยนอกจากจะมีการฟ้อนรำตามแบบไทยอีสานแล้ว ก็ยังมีการแข่งปีนต้นไม้ชิงธงของชายฉกรรจ์ในหมู่บ้าน การต่อสู้แย่งชิงธงเป็นไปอย่างตื่นเต้น จนได้ผู้ชนะคือ พระเอกของเรา แต่แล้วคืนนั้น เศียรขององค์บาก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่หมู่บ้านแห่งนั้น ก็ถูกวายร้ายชาวต่างชาติ ตัดออกไป แม้พระเอกจะเข้าไปขวางแต่ก็โดนคู่แข่งของเขา(ที่เพิ่งแย่งชิงธงกันไป และ เป็นฝ่ายแพ้) หักหลังขัดขวางพระเอกของเรา จนวายร้ายนำเศียรองค์บากออกจากหมู่บ้านไปได้ พระเอกของเราได้รับคำสั่งจากผู้นำหมู่บ้านให้ตามหาเศียรพระจนมาถึงกรุงเทพฯ และยังต่อสู้กันไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ตามฉบับหนังประมาณ 80%-90% ครับ เนื้อหาที่เหลือก็แล้วแต่ครับว่าจะไปดูในโรงละครหรือจะหาฉบับหนังโรงมาชม คงไม่เล่ามากไปกว่านี้แล้ว
ACTION & FLOW OF STORY
ด้านการแสดงนั้น บอกได้เลยครับว่าตื่นตาตื่นใจ ลื่นไหล และ ไม่อาจวางตาได้ นอกจากจะมีความเล่นใหญ่ตามสไตล์ละครเวทีแล้ว ยังมีความเป็น LIVE ACTION ซึ่งส่วนตัวผมคลุกคลีกับการแสดง TOKUSATSU SHOW อย่าง KAMEN RIDER และ ULTRAMAN มาหลายปี (แต่ยังไม่มีโอกาสเข้าชมโปรดักชั่นของละครเวทีไทยเลยครับ) ก็ตื่นเต้นไปกับการแสดงเพราะดูฮีโร่สู้สัตว์ประหลาดอยู่หรอก แต่บอกได้เลยว่าการแสดงขององค์บากนั้น ก็เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจกว่า และมีความเหนือกว่าตรงแอ็คชั่นที่ดูสมจริง และมีความสากลมากกว่า แน่นอนว่าด้วยจำนวนนักแสดงแอ็คชั่นที่ขนมา 40-50 ชีวิต คิวบู๊สุดมันแบบไม่เคยมีมาก่อน บวกกับการลงทุนในด้านฉาก และการเพิ่มลูกเล่นที่ดูจริงจัง และบวกกับการแสดงมาอย่างยาวนานนั้น ทำให้พาร์ทแอ็คชั่นสนุกสนานมากๆ เรียกว่าไปดูเขาออกแม่ไม้มวยไทย แลกหมัดกันก็คุ้มแล้ว! ไม่ใช่แค่พระเอกนะ แต่ตัวละครเกือบทุกคนในเรื่องออกคิวบู๊ได้ทั้งสิ้น!
แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบพาร์ทกรุงเทพที่เป็นองก์ 2 ของเรื่องเท่าไหร่ เพราะอารมณ์มันโดนตัดขาดจากองก์ 1 (ที่เป็นเรื่องในหมู่บ้านที่ค่อนข้างแฟนตาซีนิดๆ) มาเป็นคอเมดี้แอ็คชั่น ที่ให้อารมณ์ละครเวทีตามปกติ เรียกได้ว่าแอบโดดๆ จนกระทั่งเข้าองก์ฺ 3 ซึ่งกลับมาเป็นแอ็คชั่น แฟนตาซี ต่อเนื่องจนจบเรื่อง แต่ผมไม่ชอบก็ไม่ได้แปลว่าไม่ดีนะครับ องก์ 2 ก็มีความสนุกสนานไม่น้อยเลย เพียงแต่รู้สึกว่าเพราะความเล่นใหญ่แบบละครเวทีแท้ๆ ขององก์นี้นั้น มันต่างจากองค์ 1 และ องก์ 3 ไปหน่อยก็เท่านั้น
ความประทับใจ
จะว่าอย่างไรดี ด้วยความที่เรื่องราวมันง่ายๆ "พระเอกมาตามเอาเศียรพระคืนจากวายร้าย มีศัตรูเข้ามาขวางเรื่อยๆ" เหมือนหนังในสมัยก่อน ทำให้น้ำหนักทั้งหมดถูกเทไปที่การโชว์ลีลาการต่อสู้แบบแทบลืมหายใจ ซึ่งเขาโฆษณาไว้ว่านี่ก็เล่นจริงเจ็บจริงเหมือนตอนฉบับหนังโรง เป็นงานสตันท์โชว์ที่มีเซฟตี้เฉพาะฉากที่เสี่ยงจะตกจากที่สูงเท่านั้น ซึ่งมีเพียงครั้งหรือสองครั้งในการแสดงคิวบู๊กว่า 70 นาที (ประมาณเอานะ) ส่วนที่เหลือเป็นการต่อสู้ต่อเนื่องแบบไม่มีพักหายใจ ซึ่งน่าทึ่งมาก สำหรับคนที่ไม่ค่อยดูการแสดงต่อสู้บนเวทีอาจจะเผลอคิดว่า เขาต่อยเตะกันจริงจังขนาดนั้น ตกมาจากที่สูง รอดมาได้ไง แต่บอกเลยครับมันเป็นศิลปะการแสดงบนเวทีที่มีการซักซ้อมกันมาอย่างดี แม้หมัดและเท้าจะถึงตัวแต่ก็ฝึกร่างกายกันมาแล้ว หลายๆช็อตก็ออกแรงจริงจัง และน่าจะเจ็บจริงถ้าผิดคิวไปบ้าง ประกอบกับการใส่เสียงหมัด-เตะ-ล้ม-ของแตก ร่วมในการแสดง (คล้ายกับ TOKUSATSU SHOW) ในหลายๆ ฉากทำให้เร้าอารมณ์มาก เพราะดูสดมาก สดระดับคนกดเสียงน่าจะกดตามแทบไม่ทัน
แต่ที่น่าจะมีการสื่อสารกับคนดู ก็คือคนดูไม่มั่นใจว่าควรปรบมือชื่นชมตรงไหนดี เพราะละครมันไหลไปเรื่อยๆ ไม่มีจังหวะให้เราปรบมือซักเท่าไหร่ เอาจริงๆ ถ้ามีต้นเสียงปรบมือให้จะช่วยได้นะ เพราะเราดูแล้วไม่มั่นใจว่าจบคิวหรือยัง 555
PRODUCTION
ผมไม่มีประสบการณ์ดูละครเวทีของไทยเลย (เคยดูแต่อาคาซาร์นี่นับมั้ย?)ก็ไม่รู้ว่า การใช้จอแบบดิจิตอลนั้นเป็นสิ่งที่ทำกันตามปกติหรือไม่ แต่องค์บากนั้นมีทั้งการใช้จอ LED Matrix (น่าจะใช่นะไม่ได้ไปดูใกล้ๆ) สร้างบรรยากาศแบบอนิเมชั่น ร่วมกับฉากที่สามารถปีนป่ายขึ้นไปออกแอ็คชั่นได้หลายฉาก แต่ที่แน่นอนว่าฉากทั้งหมดออกมาดูดีมาก ฉากที่พยายามให้ออกมาดีมากๆ อย่างในอีสาน และ ฉากในกรุงเทพฯ นั้นก็พยายามทำให้ออกมาดูไม่หลอกตาจนเกินไป ดูเป็นละครเวทีที่ทุ่มทุนสร้างเยี่ยงคอนเสิร์ตใหญ่ๆ เลยทีเดียว เห็นว่าลงทุนไป 300 ล้านบาท เพื่อให้ออกมาดีที่สุด ซึ่งบอกตามตรงว่า เว่อวังอลังการเหลือเกิน
ความคุ้มค่า
บอกเลยนะครับ ว่าถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงินมาก การหาโอกาสไปรับชมสักครั้ง น่าจะเป็นสิ่งที่ควรทำนะครับ แล้วใครที่จะหาอะไรให้เพื่อนต่างชาติมาประทับใจ มา Amazing กับอะไรในกรุงเทพฯ เพิ่มจากการไปทัวร์วัด ล่องเจ้าพระยาแล้วล่ะก็ ONG BAK LIVE นั้นก็สมควรพาเพื่อนต่างชาติไปดูครับ (คล้ายๆ กับเวลาเราไปทัวร์เกาหลีใต้ แล้วเขาจะใส่ละครเวทีแบบ NANTA ให้ดูสักรอบนั่นแหละครับ) สนนราคาอาจจะแพงกว่าค่าครองชีพไปหน่อย แต่ถ้าซื้อในโปรโมชั่นที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ของ Thai Ticket Major ล่ะก็ อาจจะได้ดีลพิเศษก็ได้ครับ (ช่วงนี้มีแบบมา 3 ท่านจ่ายในราคา 2 ท่าน คุ้มมาก) ก็อยากให้สนับสนุนโชว์ของคนไทยครับ เพราะวันที่ผมไปดู ซึ่งเป็นวันพฤหัสนั้น คนไม่เต็มโรงละครนะ เต็มแค่ GC2 กับ มีประปรายแถวๆ GC5 เอง คือเข้าใจแหละว่าหลายคนคงไปดูมาแล้ว แต่ก็คิดว่า ยังมีอีกหลายคนยังไม่มีโอกาสไปดู
จะว่าไปผมไปชมในแถว M บริเวณเกือบกลางนั้น (GC 5) ได้โบนัสพิเศษที่พระเอกจะเดินผ่านตรงหน้าเลยครับ แถมตอนเปลี่ยนจาก องก์ 2 ไปองก์ 3 ก็คุ้มมากเพราะได้เห็นอะไรแบบที่คนนั่งริมไม่ได้เห็นนะ 555
สรุปสั้นๆ
ส่วนตัวแล้วตอนแรก (ก่อนได้บัตร) ก็ยี้ๆ หน่อย เพราะภาพจำของละครเวที มันมักจะออกมาโอเวอร์จนไม่อยากดู แต่พอได้ดูจริงๆ แล้วบอกเลยว่า ชอบมากๆ ครับ ไม่น้อยหน้าการแสดงต่างชาติแน่นอน อยากให้คนไทยไปสัมผัสจริงๆ ครับ สำหรับคนทื่ไม่คุ้นชินกับละครเวที ราคาบัตรอาจจะดูแพงไปบ้าง (เพราะเก็บไว้กินข้าวก็กินได้เกินครึ่งเดือนแล้ว) แต่ถ้ามองว่าเขาลงทุนให้โชว์มันออกมาอลังการ แถมงานมันก็อลังการจริงๆ ด้วย มันก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว ยิ่งการแสดงสดนั้นไม่ใช่ว่าจะรอให้แผ่นออกแล้วจะหามาดูกันนะครับ เพราะดูสดๆ นั้นดีกว่าดูแห้งแน่นอน
ไม่อยากไปดูคนเดียวแบบผม ก็ไปดูกันทั้งครอบครัวก็ไม่เลวนะครับ ถือว่าเป็นของขวัญให้คุณพ่อคุณแม่ที่ดีเลยล่ะ ได้ใช้เวลากับครอบครัวแบบเก๋ๆ แบบนี้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น