วันพุธที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2560

[Sweat16!] Report งาน Sweat16! Sports Day




หลังจากที่วง SWEAT16! (สเวทซิกซ์ทีน) ได้ออกโชว์ตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2017 ในที่สุด ทางวงก็มีอีเวนต์เดบิวต์ของตัวเองซะที แต่ไม่ได้ทำการเปิดตัวในห้างหรือในหอประชุมแต่อย่างใด เพราะทาง Yoshimoto และ Loveis แหวกแนวมาจัดกันในศูนย์กีฬาในร่วม CU Sports Complex ของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแทน! แถมไม่ได้มาแค่โชว์ตัว โชว์การแสดง แต่มีการให้เมมเบอร์ของวงนี้แบ่งเป็น 2 สี และแข่งกันทำคะแนนชิงถ้วยรางวัลกันอีก งานนี้จะเป็นอย่างไร จ่ากบเข้าไปร่วมงานในฐานะลูกค้าคนนึงจะมาพูดถึงกัน


งาน SWEAT16! Sports Day นั้นตามกำหนดเดิมคือ เริ่ม 13.00 และจบลงที่ 17.00 น. แต่มีหรือที่งานอีเวนต์ของวงไอดอลจะไม่มี Goods ขาย โดยตอนเช้านั้นพวกเขาเริ่มการขาย Goods กันตั้งแต่ 10.00น. และมีการกันให้ผู้ใช้ app Fanster ที่เล่น "มิชชั่น" เข้างานก่อน โดยมีตัวเลขของผู้ใช้ Fanster 591 คนลงทะเบียนไว้ และ นอกจากนี้ยังมีผู้ลงชื่อกับเพจต่างๆ จำเป็นต้องรอในคนจาก Fanster ได้ทำการจับจ่าย Goods กันไปสักพักจึงจะได้เข้ามา
ภาพคนต่อคิวซื้อ Goods จากเพจ Sweat16!

ในเรื่องของ Goods นั้น ทางเพจ Sweat16! ได้ขายประมาณนี้ครับ
ในเรื่องของสินค้าหรืออะไรนั้น ถ้ารวบรวมข้อมูลมาได้อีกที จะมารีวิวสินค้านะครับ

จะว่าไปแล้ว หลายคนมีติงๆ ว่าทำไมต้องจำกัดเฉพาะผู้ลงทะเบียนกับ Fanster หรือตามเพจต่างๆ ถึงจะได้เข้างานนั้น ทำไมไม่เปิด public ให้ใครก็มาดูได้แบบที่ปกติเขาทำกันนั้น ผมว่ามันเกิดจากการใช้บริเวณชั้น 4 ของ CU sport complex อันเป็นสนามบาสติดเครื่องปรับอากาศนั่นแหละครับ

ภาพจากเพจ Sweat16!

เพราะเท่าที่คำนวณด้วยสายตาแล้ว บริเวณผู้ชมกีฬาซึ่งแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ของด้านยาวของสนามนั้น มีผู้ชมมานั่งกันค่อนข้างหนาแน่น ไม่ได้โหรงเหรงอะไร ซึ่งปริมาณคนที่เขาจำกัดไว้น่าจะประมาณ 800-900 ที่นั่ง ซึ่งกำลังสนุกไม่คับคั่งจนเกินไป แต่เพราะมันเป็นชั้น 4 ของอาคารกีฬานี่แหละ ที่สร้างความลำบากให้กับแฟนคลับ หรือ โอตะ หลายคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหรือขยันเดินขึ้นลงบันไดกันพอสมควร (ยิ่งใครแบกกล้อง แบกขาตั้งกล้อง หรือ อะไรต่อมิอะไรมาด้วย คงยิ่งลำบาก) ตอนแรกก็งงๆ นึกว่าเรียกคนขึ้นไปทีละ 25 คนทำไม นึกว่าให้ขึ้นลิฟต์ไปทีละ 25 เปล่าเลย เดิน only

กองเชียร์ทีมสีน้ำเงิน (ภาพจากเพจ fanster)
กองเชียร์ทีมแดงที่มีความหลากสี เดี๋ยวดำเดี๋ยวขาว
โดยงานเริ่มค่อนข้างช้ากว่าเวลาที่กำหนด โดยเปิดงานด้วยการวิ่งคบเพลิง โดยคนที่วิ่งเป็นแฟนคลับที่เสนอตัวมาเอง ซึ่งเล่นใหญ่มาก 555 เผลอๆ เล่นใหญ่กว่าทุกคนในงานต่อจากนี้เลยด้วยซ้ำ


ด้วยการแนะนำตัวของMC ที่คนนึงคือ DJ อิฐ จาก J-Channel และอีกท่านเป็นนักพากย์กีฬาDJ โทนคุง ,  พีระณัฐ จำปาเงิน จาก FM99 และแนะนำหัวหน้ากองเชียร์คือ คู่หูตลก Appare Koizumi กับ Hanazumi พร้อมกับแมสค็อต มวยไทยชิ กับ ไอ้อ๊อด แล้วจึงตามมาด้วยเมมเบอร์ สเวทซึ่งปรากฎตัวทีละคน

2 MC ของงานวันนี้ พี่ที่ใส่ชุดญี่ปุ่นไม่ใช่นักซูโม่จากญี่ปุ่นนะครับ เขาคือ DJ อิฐ
Appare Koizumi กับ มวยไทยชิ

แล้วก็ตามด้วยการปรากฎตัวของเหล่าผู้บริหารทั้ง ประธานวิม จากฝั่งโยชิโมโตะ , บอยด์ โกสิยพงษ์ จาก Loveis และเหล่าสปอนเซอร์ จาก Huawei , Pocari Sweat , Fitbit และ Fanster

ภาพจาก fanster

หลังจากนั้นก็เป็นการเดินพาเหรดจากน้องๆ สเวท16! โดยใครได้ซื้อแท่งไฟมาแล้วก็สามารถยืนรอรับไฮทัชจากสาวๆ ได้เลยครับ (ไม่รู้คุ้มหรือไม่คุ้ม) 


ผมอาจจะเขียนแค่นี้ แต่กว่าจะจบซีเควนส์นี้นี่กินเวลานานมาก โดยเฉพาะการพูดเล่นมุกของ DJ โทนคุง ที่แทบไม่ได้พูดถึงตัวเมมเบอร์วง Sweat16! เลย คือบอกแต่ชื่อเมมเบอร์ ไม่เปิดโอกาสให้เมมเบอร์ได้พูดแคชเฟรสเรียกเสียงเชียร์จากแฟนคลับแต่อย่างใด (เห็นเมมเบอร์คิดมาแล้ว แต่อดเรียกเลย 555) แล้วก็ตามด้วยการแสดงเพลงจาก Sweat16! โดยเรียงจาก เพลง "วิ่ง" เพลงที่ 2 メレンゲの気持ち (meringue no kimochi) และเพลงที่ 3 คือ 心コロコロ恋模様 (kokoro korokoro koimoyou) โดยคราวนี้พวกเธอแสดงในชุดนักเรียนก็ทำให้ต่างจากที่ผมเคยเห็นอยู่ไม่น้อย แต่ก็น่ารักไปอีกแบบเพราะทุกทีใส่ขายาว คราวนี้เป็นถุงเท้ายาว กับกระโปรงสั้นดูดีอีกแบบครับ



หลังจากแสดงจบ ทางทีมงานก็ได้ให้สาวๆ ทั้ง 13 ชีวิตไปพักและเปลี่ยนเป็นชุดกีฬาเพื่อการแข่ง Sports Day แต่จะให้เรารอกันเฉยๆ มันก็คงจะเดดแอร์ เขาก็เลยให้เราดูการแข่งฟรีโทรว์ของท่านผู้บริหารและสปอนเซอร์กัน โดยแบ่งเป็นทีมแดงและทีมน้ำเงินตามเด็กๆ ท่านผู้บริหารคนไหนทำแต้มได้ ก็เป็นแต้มขวัญถุงให้กับทีมนั้นๆ โดยสรุปแล้ว ก็ไม่รู้จะเชียร์หรือจะโห่ดี เพราะหลายคนคงบ่นๆ ว่า "อั๊วมาดูไอดอล ไม่ได้มาดูลุงๆ แข่งกีฬาเน้อ" แต่สุดท้ายทีมที่ได้คะแนนนำไปก่อนคือ ทีมแดง

หลังจากนั้นสาวๆ ก็ออกมาในชุดแข่งของแต่ละทีมซึ่งมีความเป็นชุดพละศึกษาอยู่นะ โดยเสื้อยืดจะมีแถบสีแดง กับ แถบสีน้ำเงิน ตามทีม และมีชื่อปรินต์ไว้แล้ว เผื่อถ่ายรูปไปจะได้แยกออกนะว่า น้องคนนี้ชื่ออะไร กับ กางเกงขาสั้นสีดำ






โดยจะเริ่มทำการแข่งกีฬากันด้วย Free throw (อีกแล้ว) โดยทั้งสองทีมทำคะแนนแทบไม่ได้เลย มีเพียงทีมน้ำเงินที่ทำคะแนนไปได้ 4 คะแนนจากมิ้นและเพชรครับ

ม่านมุก
มิ้น

แถมด้วยวาจาศักดิ์สิทธิ์ของประธานวิม ที่ว่าทีมไหนแพ้ ทีมนั้นวิ่งรอบสนาม ทีมแดงที่ประธานแกเป็นหัวหน้าทีมก็โดนวิ่งไปตามระเบียบครับ 555 หลังจากแข่งจบไปก็มีให้น้องๆ พักดื่ม POCARI SWEAT


และให้เหล่าผู้ทำคะแนนจาก fanster มาโยน Free throw แข่งกับสาวๆ บ้าง



ซึ่งน่าแปลกที่ว่า ไม่มีใครโยนลูกบาสเข้าห่วงเลย ทุกคนเลยโดนทำโทษวิ่งรอบสนามทีนี้ทั้งทีมน้ำเงินทีมแดงและทีมแฟนคลับโดนวิ่งกันหมดครับ 555 นี่ถ้าเป็นรายการวาไรตี้ทางทีวีคงมีคนบ่นว่า ใครเขียนบทเนี่ย คนแสดงกากสิ้นดี แต่ผมสอบถามคนโยนมาว่า จริงๆแล้วลูกบาสที่เอามาใช้มันเบามาก เลยกะแรงไม่ถูกกันซักคนนี่เอง

หลังจาก Free Throw ไปก็เป็น วิ่งเปี้ยวซึ่งบอกเลยว่าฮามากๆ เป็นการแข่งที่ทำให้รู้สึกว่า เชียร์สนุกไม่เบา แต่แล้วทีมน้ำเงินก็สามารถคว้าชัยไปได้อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีวิ่งรอบสนามนะ


แล้วก็ตามด้วยการเล่นฮูลาฮูป ซึ่งแมตช์นี้แอนนี่โชว์ทักษะเล่นฮูลาฮูปไปเดินไปมารอบได้ด้วยนะ แต่รู้สึกว่าสุดท้ายแล้วจะไม่มีใครแพ้ใครชนะในแมตช์นี้นะครับ

แอนนี่ / แคปจาก Highlights : Sport Day - Sweat16!  

และเกมสุดท้ายก็คือ Free Kick ซึ่งผลัดกันยิงลูกโทษเข้าโกลรูหนู โดยโกลทีมแดงคือ พราวด์ เป็ดติดหนวด ส่วนโกลทีมน้ำเงินคือ ซอนญา จิ้งจอกหน้านิ่ง


พราวด์
ซึ่งแมตช์นี้ทีมแดงทำคะแนนเพิ่มได้ แล้วก็แข่งแบบทีมก็จบลง และต่อด้วยการไทอินของ PEACE BALL ACTION โดยให้ คุณไทกิ นักกีฬาฟุตบอลชาวญี่ปุ่นที่เล่นให้ทีมจุฬา มาเล่นฝ่าสาวๆ สเวท16ทั้ง13 คน โดยหากเขาทำประตูได้ ลูกฟุตบอลที่เอามาใช้ในงานวันนี้จะมอบให้แก่เด็กด้อยโอกาสครับ ซึ่งสร้างความสนุกสนานได้ไม่เลวนะครับ



แล้วช่วงท้ายก็มีการมอบรางวัลให้ MVP กับผู้ที่เบิร์นแคลลอรี่ได้มากที่สุดในวันนี้ เพราะเมมเบอร์ทุกคนจะได้รับ fitbit มาสวมไว้ตลอดการแข่ง ทำให้ตอนท้ายต่างคนต่างพยายามเบิร์นแคลอรี่กันใหญ่ เรียกเสียงฮาได้มากมาย
เฟรม

 ช่วงนี้เท่าที่ผมจำได้คือ พิมเบิร์นแคลอรี่ไปมากที่สุด และ MVP คือ มิ้นครับ


หลังจากนั้นก็มีการเปิดทีเซอร์ของ "วิ่ง" ซึ่งตอนแรกไอ้ผมก็นึกว่าจะได้ดู MV เต็มๆ ซะทีแต่ปรากฎว่าสิ่งที่ได้เห็นคือ


ซึ่งได้รับเสียงโห่จากคนดูไปไม่น้อย 555 แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนลืมคือ การแสดงเพลงใหม่ของพวกเธอ นั่นคือ เพลงที่ชื่อ Beautiful Memory



หลังจากงานแข่งกีฬาจบก็จะเป็นช่วงรับลายเซ็นต์บนภาพถ่าย ซึ่งจ่ากบก็พอจะมีโชคกับเขาบ้างโดย ได้รับลายเซ็นเหมือนกันนะ


พิม / แคปจาก Highlights : Sport Day - Sweat16!  

ซอนญา / แคปจาก Highlights : Sport Day - Sweat16!  
และหลังจากนั้นก็เป็นช่วงรับสแตนดี้พร้อมลายเซนต์เมมเบอร์กลับบ้านกันไป ซึ่งด้วยขนาด 1:1 ก็ทำให้ทุลักทุเลในการขนกลับบ้านบ้าง ถ้าไม่มีรถส่วนตัวครับ แล้วก็ยังมีจับฉลากรับเสื้อยืดพร้อมลายเซนต์เมมเบอร์ทั้ง 13 คนกลับไปอีก อิจฉาคนมีโชคจริงๆ
แล้วก็จบงานกันไปนะครับ

--------------------------------------------------------------------------------

สรุปความรู้สึก

ด้าน +

1. เวลาช่วงอีเวนต์ยาว

ถ้านับว่าเป็นงานอีเวนต์แล้ว ก็ถือว่าเป็นงานที่ใช้เวลายาวนานเต็มอิ่มจริงๆ เพราะแฟนคลับเข้าพื้นที่ตั้งแต่ 10.00น. กว่าจะเลิกก็นู่น 17.00น. เรียกว่า 7 ชั่วโมงนี้แทบจะไม่ได้สนใจโลกภายนอกกันเลยทีเดียว

2. พื้นที่จัดงานกว้าง ไม่อึดอัด เป็นส่วนตัว

พื้นที่จัดงานคือชั้น 4 ของ CU sports complex ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสนามบาสในร่ม มีแอร์เย็นสบาย ด้วยปริมาณแฟนที่เข้าร่วมนั้นถูกบีบให้ไม่เกิน 900 คน และคาดว่าน่าจะมาประมาณ 500- 600 คน (ไม่มั่นใจนะครับ กะด้วยการมองไปมองมา บางช่วงเหมือนมีคนน้อยลง อาจจะกลับไปก่อนงานจบ) และไม่มีการล็อคที่นั่งมากมาย แม้ตอนเริ่มเข้างานจะมีการจัดให้มีเลดี้โซน กับโซนแมนๆ แล้วก็ตาม แต่ถ้าตอนหลังจะเดินไปนั่งตรงไหนก็พอทำได้ (ถ้าขยันเดิน) + พื้นที่ที่เป็นทางเดินค่อนข้างโล่ง ทำให้รู้สึกโปร่งๆ ไม่อึดอัดนัก และสามารถพักขาได้เท่าที่ต้องการไม่ต้องยืนดูตลอดแบบงานคอนเสิร์ตนักร้องตามปกติ และบวกกับการจัดในพื้นที่ปิดทำให้ไม่มีขาจรมาดูแล้วชักสีหน้าอะไรกลับไปได้แต่ภาพ + ด้วย

3. แปลกใหม่สำหรับแฟนคลับ

เนื่องด้วยธีมหลักคือการแข่งกีฬา ทำให้เราได้เห็นทักษะทางกีฬาของเมมเบอร์แต่ละคนกันแบบสนุกสนาน ซึ่งปกติแล้วไอดอลโอตาคุ ไม่ค่อยเข้าสนามกีฬาหรอกครับ แต่พอไอดอลมาแข่งกีฬาทุกคนก็ดูได้สนุก ซึ่งน่าจะได้ความประทับใจกลับไปแล้วแต่บุคคล เพราะเมมเบอร์เดินมาแวะกองเชียร์สีของตัวเองบ้างถ้ามีเวลา

4. การแข่งกีฬาของสาวๆ ก็ดูสนุกดี

ผมเคยเห็นการแข่งกีฬาสีของไอดอลมาก่อน โดยเฉพาะของฝั่ง 48 ซึ่งการแข่งก็จะเป็นกรีฑาเสียเยอะ แต่ส่วนของสเวทก็มีกีฬาแบบที่ใครก็ดูสนุก อย่างฟรีโทรว, ฟรีคิก , วิ่งเปี้ยว ซึ่งเท่าที่จัดอยู่ก็สนุก แต่หากจัดอีกก็อยากให้มีเกมที่เยอะขึ้นกว่านี้ หรือ มีการเตี๊ยมกับคนดูที่ไม่ใช่แฟนกีฬาบ้างว่า เวลาสีตัวเองจะแข่งต้องเชียร์ยังไง เรียกว่าถ้าเชียร์กันดีๆ งานนี้ก็สนุกขึ้นไปอีกครับ (เห็นของญี่ปุ่นที่เขาพร้อมเพรียงกันแล้ว อยากให้เกิดในบ้านเราบ้าง)

5. มีการเพิ่มเพลงใหม่ในการแสดง

สำหรับผมที่เคยเห็นสเวท16! แสดงมาก่อน ก็จะคุ้นกับเพลง วิ่ง และ Kokoro koikoyo งานนี้มีเพลงใหม่อีก 2 เพลง ทำให้เป็นที่พูดถึงมากขึ้นอีกนิด จากที่หลายคนบ่นว่า เพลงเร็วไปไหนดูแล้วเหนื่อย ก็จะมีเพลงช้าๆ เพราะๆ อ้อยอิ่งให้ดูบางแล้ว 1 เพลง ส่วนMerenge Kariuta ก็ยังเป็นเพลงเร็วอยู่ ทีนี้ก็ต้องรอลุ้นแล้วล่ะครับว่า เพลงที่จะบรรจุในซิงเกิ้ลจะเป็นเพลงอะไร?

ด้าน -

1. ทั้งๆ ที่เป็นงานเดบิวต์แท้ๆ แต่ตัวไอดอลแต่ละคนกลับไม่ถูกเน้นขึ้นมา

เพราะพยายามจะมุ่งเน้นว่า "เป็นไอดอลที่เน้นการออกกำลังกาย" ทำให้เวลาประมาณ 70%-80% เป็นการแข่งกีฬา มีการแสดงเพลงเพียง 4 เพลง แถมไม่มีโอกาสให้เมมเบอร์แต่ละคน แสดงตัวตนมากมายอะไร มีแต่ต้องให้เมมเบอร์ขับเน้นมันออกมาเอง บางเมมเบอร์ก็เด่นเพราะความเก่งด้านกีฬา เมมเบอร์บางคนก็เด่นเพราะความโดดเด่นของตัวเอง แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นที่จดจำกลับไป เสียดายตรงจุดนี้มากๆ เพราะการที่มีเมมเบอร์ 13 คนนั้น การแนะนำตัวเองก็ไม่น่าใช้เวลามากมายอะไร

2. ทั้งๆ ที่เป็นงานของตัวเอง แต่คนดูกลับไม่ได้ภาพจำใหญ่ๆ กลับไป

โดยส่วนตัวแล้ว ขณะกำลังเขียนอยู่ ไม่ได้รู้สึกว่าเข้าใจหรือรู้จักวง Sweat16! เพิ่มเลย (ผมอาจจะรู้จักอยู่แล้วเลยคิดแบบนี้) ทั้งที่คอนเซปต์ของ Sweat16! เปลี่ยนจากไอดอลตามปกติ เป็นไอดอลการกีฬา น่าจะมีภาพใหญ่ๆ ว่า ต่อไปเราจะได้เห็น Sweat16! กันในทิศทางไหนต่อไปบ้าง คือผมมีความรู้สึกว่า ถ้าอยากทำเหมือนการเปิดตัวสินค้าจำพวกสมาร์ทโฟน มันก็จำเป็นต้องเล่นใหญ่สไตล์ Apple หรือ Microsoft ที่ไม่ได้บอกอนาคตของแบรนด์นะ แต่มุ่งเน้นไปที่สินค้าที่กำลังจะทำการขายแบบจัดหนักๆ ไปเลย ในทีนี้แม้แต่ CD Debut ยังค่อนข้างไม่กระจ่าง ค่อนข้างคลุมเครือว่าจะเอาไงต่อ จะบอกว่าติดเดือนตุลาคมซึ่งเป็นเดือนราชพิธี แต่นั่นก็ยิ่งควรทำให้คนมีภาพจำอะไรแรงๆ กลับไปตลอดเดือนตุลาคมนะครับ แม้ว่าคุณจะสามารถหาคลิปข่าวมาดูย้อนหลังได้ แต่ความรู้สึกของคนในงานที่อุตส่าห์มาร่วมงาน น่าจะได้อิมแพ็คดีๆ กลับนะครับ ถ้าอ่านอยู่ รบกวนคำนึงถึงใจโอตะบ้าง

3. ไม่รู้มีการถ่ายทอดสดตัวงานหรือไม่?

งานนี้เป็นงานปิด แต่โดยส่วนตัวแล้ว งานนี้ควรมีคลิปย้อนหลังให้ดูมากๆ ครับ เพราะคนหน้าใหม่ๆ ไม่มีโอกาสได้รู้จักเลย ถ้าไม่มีก็ถือว่าพลาดนะ

สรุปแล้ว

ความรู้สึกโดยรวม 8 / 10
รอดูอีเวนต์หน้าต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม