แต่ก่อน เราไม่มีได้เพื่อนคุยที่ไม่เคยเห็นหน้าแบบนี้ เราไม่เคยมีส่วนร่วมอะไรพร้อมกันมากเท่าเวลานี้ ดังนั้นแล้วมันไม่ใช่ยุคมืดบอดอีกต่อไป
สมัยที่อินเตอร์เน็ตยังไม่เจริญนั่นคือเมื่อเกิน 20 ปีก่อน อินเตอร์เน็ตยังเป็นอะไรที่ไกลตัวประชาชนคนไทยมาก ดังนั้นเราจึงเป็นแค่ "ผู้รับสารทางเดียว".. ทีวีกับวิทยุเป็นสื่อที่ทำให้คนหมู่มากร่วมรับรู้สิ่งต่างๆ ได้พร้อมกันมากๆ ในเวลาเดียวกัน แต่ผู้จัด/เจ้าของรายการไม่เคยรู้ และไม่เคยสนใจหรอกว่า "คนดูมันจะคิดยังไง" เพราะสมัยก่อน "สื่อ" เหมือนมีอำนาจขาดที่จะนำเสนอ ประชาชนคนไทยตาดำๆ ไม่มีทางจะแสดงความเห็นอะไรให้คนหมู่มากรู้เรื่องได้เลย... นั่นเป็นเรื่องในอดีต
ปัจจุบัน ไม่ใช่แค่รายการในประเทศเท่านั้น แม้แต่รายการต่างประเทศเราก็ยังสามารถดูสดข้ามประเทศได้แล้ว โดยไม่ได้ผ่านเครือข่าย "ทีวี" แต่อย่างใด (แม้เราจะเสพสิ่งที่เดิมทีทำขึ้นมาเพื่อให้ดูผ่านทีวีก็ตามที) แต่ผ่านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (ที่ต้องระบุเพราะมันยังมีอินเตอร์ความเร็วต่ำให้ใช้อยู่) สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ "คนที่ขวนขวาย" ก็จะได้เห็น "สิ่งที่ประเทศอื่นเขาเห็น" ไม่ได้จำกัดแต่ "สิ่งที่ผ่านการคัดกรอง" ของ "สื่อสัญชาติไทย" เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
แต่อนิจจา, แม้ "ขอบเขตการรับรู้" ของเราจะไม่มี "การคัดกรอง" อีกแล้ว แต่คนอีกมากมายหลายล้านคน ยังชอบเลือกอะไรที่ผ่านการคัดกรองมาแล้วมากกว่าจะไปหาดูกันที่รากเหง้าหรือต้นสายปลายเหตุกันอยู่ดี
แม้อินเตอร์เน็ตจะทลายกำแพงกรองออกไปแล้ว แต่หากขาดซึ่งเวลา ก็ไม่มีทางจะมีโอกาสเสพย์สื่ออยู่ดี
ดังนั้นคนจึงเลือกจะฟังคนที่สรุปข่าวให้มากกว่า เรียกว่าปิดตาจาก "ทั้งหมดที่เกิดขึ้น" กลับ "เลือกฟังแต่ที่คนอื่นสรุปให้" ซึ่งการสรุปไม่ใช่สิ่งไม่ดีทั้งหมดหรอก แต่หากเราเลือกที่จะเชื่อ "บางสิ่งที่โดนตัดทอนมาแล้ว" มันก็เทียบเท่ากับการที่เราเลือกที่ไม่รับรู้ "ข้อเท็จจริง" นั่นแหละ
หากมีคนถามว่า "ทำไมกระแสดนตรีญี่ปุ่นในไทยแผ่ว" ก็เพราะไม่มี "ใคร" นำเสนอ ซึ่งไอ้ใครที่ว่านั่นก็คือ "สื่อ" ครับ แล้ว "ทำไมOOมันครองเมืองไทยจัง" นั่นก็ง่ายๆคือ "ใครๆ ต่างก็นำเสนอ" ยังไงล่ะครับ แล้วทำไมถึงอวยOOจัง อันนี้ไอ้ผมที่มองไม่เห็นว่าทำไมถึงชอบกันจังคงตอบไม่ได้ เพราะผมก็ "เลือก" ที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขาครับ
เพราะในสายตาผมที่ "ติดตามวงการบันเทิงญี่ปุ่น" มาตลอดนั้น ไม่เห็นมีสักช่วงที่ทางญี่ปุ่นจะลดการผลิตงานดีๆ เหมือนสมัยผมยังเด็กๆ เลยแม้แต่น้อย เหมือนแอปเปิ้ลหวานฉ่ำก็ยังฉ่ำอยู่แบบนั้น แต่ทำไม "คนไทย (ที่ไม่ใช่ผม) เห็นน้อย" ก็เพราะพวกเขา "ตามเฉพาะที่มีคนกรองมาให้ไงครับ" คนที่บอกว่าญี่ปุ่นแผ่วและคิดแบบนั้นจริงๆ เพราะพวกคุณไม่ยอมกินแอปเปิ้ลสดๆ พวกคุณเลือกกินแต่ "น้ำแอปเปิ้ลกล่อง" ที่มาแต่ "น้ำ" ไม่ได้กิน "เนื้อผลไม้และเส้นใยอาหาร" หรือ "สภาพอย่างที่มันเป็น" แม้แต่น้อย แอปเปิ้ลที่ควรจะกินเต็มๆใบได้เนื้อตามน้ำหนัก 100 กรัม กลับเลือกเอาแต่น้ำผลไม้ (ที่ไม่ได้คั้นและปั่น) เล็กน้อยมาดื่ม
แล้วคุณคิดว่า "ได้น้ำน้อยจัง" ได้เห็นความน้อยของมัน ก็พาลคิดว่า "มันแผ่ว" ไปเสียเอง ซึ่งเป็นการเข้าใจผิดอย่างแรงมาก กลับกันฝ่าย OO ไม่รู้ทำไมมีป๋าดันม๊าดันมากจังมามันทุกช่องทาง ซึ่งบอกเลยนะ มันก็ไม่ได้ดีกว่าของที่ญี่ปุ่นเคยทำเลยแท้ๆ แต่คงเพราะOOเขาขายรายการถูกๆให้เข้าไทยได้ มันสบายกระเป๋ากว่าญี่ปุ่นที่จุกจิกมั้งครับ? อะไรต่อมิอะไรของOOถึงได้เต็มบ้านมาครองเมืองซะแบบนี้ เฮ่อ...คนก็เลยเสพแต่ OO เพราะไม่มีใครอยากเสียเงินซื้อรายการญี่ปุ่นเข้าไทยเอง และคนไทยก็ไม่ว่างพอจะมาดูเอง เพราะขาดคนแปลด้วยก็ส่วนหนึ่ง เฮ่อ
ทั้งๆที่เวลานี้ มันไม่ใช่ยุคมืดบอดอีกต่อไปแล้วแท้ๆ แต่ทำไม...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น