คุณสามารถบอกชื่อพวกเธอได้ทันทีเลยหรือไม่? (คำเฉลยอยู่ท้ายบทความ) |
AKB48 (เอเคบีโฟร์ตี้เอท) หรือที่คนทั่วไปมักย่อเหลือแค่ AKB นั้นบัดนี้ได้ครบรอบ 10 ปีแล้ว ตลอดช่วงหลายๆปีมานี้ ทางวงAKBก็ได้มีเมมเบอร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับวงและสร้างชื่อแก่ตัวเองมาไม่น้อย เรียกว่า หลายคนแม้จะจบการศึกษาไปแล้ว แต่ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในวงการบันเทิงต่อไป อาทิ มาเอดะ อัตสึโกะ, โอชิมะ ยูโกะ, ชิโนดะ มาริโกะ, อิตาโนะ โทโมมิ และอีกหลายคน หลายคนสปอตไลท์ยังส่องมาที่พวกเธอ หลายคนก็ล้มหายไปจากวงการ บางคนก็fade (เฝด) ตัวออกไปประกอบธุรกิจอื่น คนที่พักงานไปหลายปีเพิ่งรีเทิร์นเข้าวงการก็มีไม่น้อย
คามิ 7 (ในรูปขาดอิตาโนะ โทโมมิ) |
กล่าวคือในเวลาที่เหล่าศิษย์เก่ายังอยู่วง คนในระดับแม่เหล็กหรือ Kami 7 (คามิเซเว่น ไม่ใช่ คาไมเจ็ด) ก็เรียกว่าเป็นหน้าเป็นตาเป็นแม่เหล็กเรียกเงินค่าบัตรจับมือ, ค่าบัตรคอนเสิร์ต และเรตติ้งทีวีมาไม่ใช่น้อย เรียกว่า ต่อให้เมมเบอร์มีหลักร้อย แต่เอาเข้าจริงระดับแม่เหล็กก็มีเพียงหยิบมือ และที่ผ่านมาก็เพียงพอ เพราะทางAKSคงไม่นึกว่าวงAKB48จะเป็นธุรกิจที่กินยาวมา10ปีแบบนี้ (ปีแรกๆ ก็ได้ยินว่าขาดทุนเยอะนะ ไม่ได้กำไรดีแต่แรก) และตอนออดิชั่นก็เฟ้นหา "เด็กที่ไม่ใช่ที่ 1" มาเข้าวงอย่างต่อเนื่อง เพราะมองว่า "แฟนเพลง" จะเอาใจช่วยพวกเธอด้วยการ "อุดหนุน", "สนับสนุน" เด็กที่ไม่เพอร์เฟคต์มาแต่แรกพวกนั้น
แนวคิดก็คือแนวคิด แต่ความเป็นจริงมันไม่ง่าย เพราะปรากฎว่า "เด็กที่ไม่ใช่ที่ 1" ซึ่งโอตะคุ (แฟนเพลงผู้ทุ่มเท) โปรดปรานนักหนานั้น ไม่ใช่ว่า "คนวงการบันเทิง" จะโปรดปรานเสียทั้งหมด "โอกาส" ที่เปิดในAKBที่มีเด็กให้เลือกเป็นร้อยๆ เบอร์ ก็เปิดเพียงแค่จำนวนนับนิ้วมือได้ ซึ่งพออุนเอย์ (หรือ ฝ่ายการจัดการ) ทราบดังนั้นก็จำต้อง "ปั้นดินให้เป็นดาว" โดยคัดจากเด็กนับร้อยเหลือเพียงนับนิ้วได้ตามโควต้าของวงการ
(ภาพซ้าย อิตาโนะ โทโมมิ / ภาพขวา ซาชิฮาระ ริโนะ)
พอต้องปั้นดินให้เป็นดาวแล้ว การคัดคนก็ต้องคัดคนที่มีความโดดเด่นขึ้นมาและผลักดัน (โอชิ) ขึ้นมา โดยกลุ่มแรกๆ ที่ถูกผลักดันขึ้นมาก็เป็นพวกรุ่นแรกๆ สมาชิกของคามิ 7 รุ่นแรกนั้นล้วนแต่กลายเป็น "ตัวท็อป" ที่ "คนทั่วไป" จดจำได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นมาเอดะ อัตสึโกะ,โคจิมะ ฮารุนะ , ชิโนดะ มาริโกะ, ทากาฮาชิ มินามิ, โอชิมะ ยูโกะ, อิตาโนะ โทโมมิ และ วาตานาเบะ มายุ เรียกได้ออกทีวีบ่อยมาก คนที่ไม่ใช่แฟน (non fan) ก็จะจดจำพวกเธอเป็นหน้าตาของวงได้ แล้วก็มีการเติมเอา คาชิวากิ ยูกิ กับ ซาชิฮาระ ริโนะ เติมๆ เข้ามาในภายหลัง แต่หลังจากนั้นก็ดูเหมือนเมมเบอร์ที่เด็กกว่านั้นจะไม่ได้รับการแยแสจาก non fan เท่าไหร่
ทำไมจึงต้องแคร์ non fan?
หากมองในแง่ของธุรกิจแล้ว การมีฐานแฟนที่ใหญ่ก็เป็นเรื่องที่ดี AKBเองก็เติบโตด้วยความเหนียวแน่นของแฟนเพลง แต่ปัญหาคือพวกเขาจงรักภักดีเกินไป หากวันใด ดาราระดับแม่เหล็กของวงเดินออกไป พวกเขาก็เดินตามออกไปด้วย ไม่ใช่ทุกคนจะย้ายความชอบจาก "โอชิเมม" ไปเป็นคนอื่นง่ายๆ หรอก ยอดขาดถล่มทลายที่เคยได้จากโอตะคุที่ทุ่มเทให้ตัวเองได้เจอตัวจริงของแม่เหล็กคนละหลายสิบแผ่น รวมกันหลายพันก็หลายหมื่นหลานแสนก็จะหายไปเพราะการออกจากวงของพวกแม่เหล็ก โอตะคุไม่ค่อยได้แคร์ "ตัววง" มากเท่า "ตัวไอดอล" พวกเขาสามารถตีจากได้ทันทีที่ต้องการอยู่แล้ว กล่าวคือ "ต้องสร้างตลาดใหม่ขึ้นมาจาก non fan , ต้อน non fan ให้เป็น fanให้ได้" หลายคนอาจลืมไปว่า "แฟนเพลงของวงๆนึงก็เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของประชากรในประเทศ ซึ่งแน่นอนไม่ใช่ "ทุกคน" ในประเทศครับ
หนทางแก้ไขคือ "เพิ่มแม่เหล็กคนใหม่"
จุดเปลี่ยนของAKB48วันนี้ อาจจะเริ่มจากการประกาศจบการศึกษาของเมมเบอร์หลักอย่าง มาเอดะ อัตสึโกะ ที่ดังที่สุดของวงในปี2012 (ซึ่งส่งผลให้มีการจบการศึกษาของเมมเบอร์มากมายหลังจากนั้น) ทำให้เกิดระบบ "ควบวง" หรือก็คือการดึงเอาเมมเบอร์จากวงน้อง (SKE48, NMB48, HKT48) มาเป็น "สมาชิกควบ" คือมีสถานะเป็นคนของทั้ง 2 วง เวลาออกทีวีในนามวงไหนก็เป็นเมมเบอร์ของวงนั้นทันที พร้อมกับกลับมา "ดันเด็ก" อีกครั้ง เพื่อมาอุดช่องว่างให้ตำแหน่งในวงไม่โบ๋ไปเฉยๆ และเป็นการ "หาหน้าใหม่ๆ มาเรียกแขก" นั่นเอง
พารูรุในปี 2012 |
คาวาเอย์ รินะ (ในปี 2015) |
มิยาวากิ ซากุระ |
แต่นั่นหมายถึง AKB48 ไม่มีเด็กใหม่ที่น่าสนใจเลยงั้นเหรอ? อันนี้น่ากลัวนะครับ
เมื่อพิจารณาถึงยอดชมคอนเสิร์ต ยอดขายบัตรจับมือ (หรือยอดขายCD) ที่มีเหล่าเด็กสาวเป็นตัวแปรสำคัญแล้ว หากปี 2016 ที่กำลังจะถึงนี้ AKB48 ที่ไร้แม่เหล็กจะมีชะตากรรมเป็นเช่นไร?
โปรดติดตามตอนต่อไป
สู้เขานะ ไอ้มดแดง สู้เขานะ (อากิโมโตะ) ยาสึชิ
ไม่ใช่ละ เหอๆ
(เฉลย รูปแรกสุด จากซ้าย คาโต้ เรนะ, ชิมาซากิ ฮารุกะ, โยโกยามะ ยุย, อิริยามะ อันนะ)
บทความโดย ต่อพงศ์ พณิชยกุล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น