รายการ BNK48 SHOW
On air 1st episode : July 9th, 2017
ทาง ช่อง3 SD (ช่อง 28)
เวลา 17.00 - 18.00 น.
MC : เอ๊ะ (วง ละอองฟอง) & บ.ก. เรโกะ
เมมเบอร์ : BNK48
รีวิว : จ่ากบ
1 ในรายการที่แฟนๆ BNK48 วงน้องสาวนอกญี่ปุ่นของ AKB48 รอกันมาพอสมควร รายการนี้ในวาระได้ ฉายเทป 1 แล้ว ก็เป็นอันว่าผมจะต้องมารีวิวแบบสับแหลกกันครับ
แต่ต้องขอออกตัวก่อนว่า ตัวจ่ากบเองเป็นคนที่ชอบรายการทีวีของประเทศญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อย และได้ดูรายการของไทยน้อยมาก ดังนั้นแล้วนี่อาจจะเป็นการเขียนที่ไม่ค่อยแฟร์กับผู้ผลิตรายการแน่นอนครับ แต่ขอพูดถึงในแง่ที่เป็นคนดูรายการวาไรตี้ไอดอลมานานมากก็แล้วกันนะครับ ต้องขออภัยท่านผู้อ่านไว้ล่วงหน้าด้วย
ถ้าพร้อมแล้วก็มาอ่านกันครับ
ในแง่ของการนำเสนอแล้ว เกือบทุกจุดนั้นต้องขอติจริงๆ ครับ
ผมไม่ทราบจุดประสงค์ของรายการ BNK48 SHOW จริงๆ ว่าทาง บ. RAM ที่เป็นเจ้าของรายการนั้นมีจุดมุ่งหมายจะใช้รายการนี้เป็นสื่อในแบบไหน แต่ถ้าในความเข้าใจของผม
รายการนี้ ควรจะ
(1) กำเนิดขึ้นมา เพื่อให้ "คนทางบ้าน" , "คนที่ยังไม่รู้จัก BNK48" ได้รู้จัก "เมมเบอร์"
(2) ทำการ PR ตัวเมมเบอร์ ในแบบที่เป็น "ทางการ" ไม่ว่าจะด้านความสามารถหรืออะไรก็แล้วแต่
(3) เป็นรายการเบาสมองที่ทำให้ "ผู้ชม" ได้รู้จักและรักเมมเบอร์มากขึ้น
ใช่หรือไม่?
แต่สิ่งที่รายการเทปแรกได้สื่อออกมานั้น
(1) ไม่ได้ส่งเสริมให้คนนอกได้รู้จักและจดจำเมมเบอร์ได้เลย เพราะตลอดรายการ เมมเบอร์แทบไม่ได้พูด ตัว MC ทั้งสองท่านได้ดำเนินรายการอย่างเต็มที่จริงๆ แอบจะโอเว่อเกินความจำเป็นด้วยซ้ำนะในส่วนคุณเอ๊ะ ส่วน MC เรโกะนี่คือ น่ารักเกินน้องๆ BNK48 ไปอีกมั้งครับ จนผมว่าผู้ชมน่าจะชอบตัว MC ได้ง่ายกว่าตัวเมมเบอร์เสียด้วยซ้ำ
(2) แม้เมมเบอร์จะไม่ได้พูดอะไรมากมาย จะด้วยบทหรือความใหม่ของน้องก็ตามที แต่จริงๆ แล้ว "ฝ่ายตัดต่อ" ควรทำ "ป้ายชื่อ" ทุกครั้งที่เมมเบอร์ยืนเรียงๆ กันหลายคน เพราะ "คนที่ยังไม่รู้จัก BNK48" ก็ใคร่อยากจะรู้ว่า "น้องคนนี้ชื่ออะไร?" นี่คุณเล่นไม่ขึ้นชื่อมาเลย คุณหวังว่าคนดูจะนึกชื่อออกเองเหรอครับ? คือรายการไทย ไม่ชอบขึ้นป้ายชื่อคน ผมเข้าใจนะ แต่นี่มันรายการแนะนำตัวน้องๆ BNK48 ปะครับ เอาให้คนที่ไม่เคยตามมาดูก็ได้ครับ ดูจบแล้วถามได้เลย จำใครได้บ้าง จำได้ก็เก่งอะ
"ช่วง" ต่างๆ ของรายการ
ด้วยความที่รายการ BNK48SHOW มีเวลาออกอากาศเกือบๆ 1 ชั่วโมง ถือว่ายาวมาก มีพื้นที่ทำมาหากินนานมาก แม้จะไม่มีสปอนเซอร์เข้ามาก็ตามที แต่ช่วงต้นๆ ของรายการ "รีบ" มาก เหมือนรายการมันยาวแค่ 10 นาที
ทั้งที่คุณสามารถ
(1) อธิบายว่า วง BNK48เป็นใคร มายังไงแบบย่นย่อซัก 2-4 นาที คือ แม้จะพูดบ่อยแล้วในสื่ออื่น แต่สำหรับรายการ BNK48 SHOW แล้ว ถือว่า "เป็นครั้งแรกที่พูดถึง" เรื่องการสื่อสารกับ "คนทั่วไป" นั้นควรจะคำนึงเป็นสิ่งแรก แล้วทำไมแนะนำเมมเบอร์เฉยๆ น้องเก่งอะไรทำไมไม่ให้น้องบอกครับ? เวลาเยอะแบบนี้มีผู้บรรยายช่วยก็ได้นี่ครับ หรือ MC ช่วยกันแนะนำก็ได้นี่ครับ ทำไมไม่ใส่
บอกเลยนะครับ
ต่อให้รายการน่าเบื่อ แต่ถ้า "สาร" ที่จะส่งถึง "คนทั่วไป" ครบ ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว
แต่ BNK48Show ไม่มีเลย....
(2) "ช่วงแสดงความสามารถส่วนบุคคล" ก็ไม่ค่อยติดอะไร แต่ไหนๆ จะชู "อร" แบบเดี่ยวๆ แล้ว น่าจะทำให้น่าจดจำกว่านี้ นี่คือจำได้ว่าทำกับข้าวพอกินได้ แต่อย่างอื่นคนดูจำได้แค่ไหน ถามคนเพิ่งมาดูครั้งแรกดูครับ เขาจะตอบได้ชัดเจนมากๆ
(3) BNK48 NEWS สำหรับผมแล้วนี่เป็นช่วงที่น่าติที่สุด ถึงระดับว่า ถ้าตัดมาแบบนี้ ไม่ต้องใส่ดีกว่า เพราะ
(3.1) เรียงไทม์ไลน์ได้แปลกมาก เอาช่วงที่ไปเดินเที่ยวโอกินาวะ ซึ่งเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งมาเริ่มก่อน แล้วก็ไม่มีอะไรที่เป็น "การไปเที่ยว" อย่างจริงจังเลย ทั้งๆที่ในสมัย BNK48 Senpai ก็ทำได้ดีประมาณนึงแท้ๆ แต่ที่ตัดมามันแปลกมากๆ เหมือนที่ถ่ายๆ มาใช้งานไม่ได้ เลยไม่ใช้มันดื้อๆ ซะงั้นล่ะ? แล้วเท่าที่รู้มาคือ ไป 2-3 ที่ แต่เอาให้ดูแค่นี้คืออะไรครับ? ทำไมไม่แนะนำ จ.โอกินาวะไปด้วยเลยล่ะครับ? งงในงง
(3.2) ในช่วงที่เมมเบอร์ BNK48ไปชมการเลือกตั้งนั้น มีพาร์ตที่เมมเบอร์ BNK48 ได้เจอเมมเบอร์รุ่นพี่ทุกวง มีภาพที่มิโอริได้คุยกับเมมเบอร์รุ่นพี่ตั้งกี่คน แต่ไม่มีเสียงพูดคุยอะไรกันเลย (เปิดแต่เพลง 365 วันของเครื่องบินกระดาษ วนไปมา) คือ ไม่มีเวลาใส่คำบรรยาย? หรืออัดเสียงมาห่วยมากจนยากจะใช้ ? (ถ้าอัดเสียงมาห่วยนี่ ก็เคยมีบทเรียนมาแล้วตอน BNK48 Senpai นะ ทำไมไม่รู้จักปรับปรุง?) หรือ คนตัดต่อไม่รู้ว่าเมมที่ไปคุยเป็นใครเลยตัดทิ้งดื้อๆ? (น่าน้อยใจแทน) ถ้าจะไม่ใช้คลิปช่วงนี้แต่แรก จะตัดมาเรียงไว้ทำไมครับ? หรือถ้ายังไม่พร้อมจะใช้งาน ก็เอาออกทั้งช่วงได้เลยครับ จะใช้ไว้ทำไมให้น่าหงุดหงิดแบบนี้ (พูดในฐานะคนชอบวงพี่นะครับ)
(3.3) เกี่ยวกับ BNK48 Roadshow คือถ่ายภาพบรรยากาศมาเฉยๆ ทำไมครับ? ทำไมไม่มีการแจ้งผู้ชมว่า "มีอะไร จะไปที่ไหนกันต่อ" หรือ "จุดประสงค์ที่จัด Roadshowคืออะไร" ทำไมไม่บอกกล่าวครับ ตกลงคุณใส่ไว้ทำไม? แล้วคุณภาพการถ่ายทำนี่แย่กว่า Fan Camera เสียอีก (ใช้โทรศัพท์มือถือหรือไง?) คือ ถ้าคุณมีแผนว่าจะใช้งานในรายการแบบนี้ ควรจะใช้กล้องที่คุณภาพดีๆ ไปเก็บบรรยากาศมาสิครับ มีการถ่ายเบื้องหลัง มีคอมเมนต์จาก MC + เมมเบอร์ ในแต่ละวันมาก็ได้ ว่า เมื่อกี้ตื่นเต้นมั้ย แอบทำอะไรพลาดไป มันน่ารักกว่าการเก็บภาพมาแห้งๆ แบบนี้
(3.4) ตรงน้องนั่งอ่านข่าวนั้น ควรจะถ่ายทำกันแบบที่เหมือนนักข่าวที่ลงพื้นที่ครับ คือ มีการบอกผู้ชมว่า "วันนี้เราอยู่ไหนมาทำอะไร" ก็ได้ หรือถ้าจะทำเป็นข่าวย้อนหลังก็ควรจัดแสงให้ดีกว่านี้ครับ ปรับปรุงหน่อยเถอะ มันแย่กว่าดูไลฟ์ผ่าน Voov ที่ถ่ายด้วยกล้องหน้าของมือถืออีกนะจะบอกให้
(4) ช่วงเล่นเกมต่างๆ
ในแง่ของวาไรตี้แล้ว ผมว่ามันมีปัญหาในด้านมุมกล้อง และ การตัดต่อที่เวิ่นเว้อ และ เสียงประกอบที่ไปขโมยรายการ Gaki no tsukai หรือที่บ้านเรารู้จักกันในชื่อ "เกมห้ามหัวเราะ" มาใช้ ซึ่งเฝือมาก และน้องๆ ไม่จำเป็นต้องเล่นครบทุกคนก็ได้มั้งครับ? มันจะยาวไปไหน คือเข้าใจว่าถ่ายมายาว และอยากให้เห็นน้องๆ ทุกคน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใส่มาครบก็ได้ เอาแต่ที่ฮาๆ มาใช้ก็พอ น้องคนไหนไม่ฮาก็ควรโดนตัดทิ้งไปสิครับ
ในส่วนเกมที่เล่นคือ
1 ซูโม่
งงมากชุดที่ลืมเป่าลมเข้าไปหรือเปล่า? หรือชุดมันเป็นแบบนี้
2 โดดเข้าเฟรมกล้อง
เกมนี้เห็นมีคนพูดถึงว่าอาจจะก๊อปปี้จาก Running Man ของเกาหลี แต่ก็ตลกดี ถือว่าสนุก เรียบง่าย ได้ความฮา
3 เป่ายิ้งฉุบป้ายหน้า
เกมนี้ยาวมาก มากจนผมหนีไปหาข้าวกิน ปรับปรุงเรื่องเวลาหน่อยเถอะ
ส่วนตัวแล้ว เกมก็โอเคหรอกนะ โดยเฉพาะเกมที่สองที่ฮาแบบเรียบๆ ง่ายๆ ได้ใจดี แต่เกม 3 ยาวไปไหน อยากให้ตัดต่อเกมให้ดีกว่านี้นะ คือ จังหวะมันพิลึกๆ มากๆ คือ เหมือนให้แข่งๆ ไปงั้น ไม่มีรางวัลให้อ่ะ แบบนี้ต้องมีเค้กแสนอร่อย อาหารอร่อยมาล่อตาล่อใจนะ (ญี่ปุ่นมากๆ นะ มีรางวัลมาล่อ)
(5) ภาพประกอบ
อยากให้จ้างนักวาดการ์ตูนมาวาดภาพอธิบายเกมครับ ตอนนี้มันดูมือสมัครเล่นมากๆ เหมือนวาดรูปเดียวมากลับซ้ายกลับขวา ดูเผามากๆ นักวาดไทยๆ ที่เป็นโอตะ BNK48 มีเยอะแยะครับ ติดต่อไปนี่ ขี้คร้านจะมีคนแย่งกันรับงานเลยมั้ง
สรุป
รายการต้องปรับปรุงอย่างแรงมากๆ อยากให้เน้นเมมเบอร์แต่ละคนให้ชัดเจนกว่านี้ ถ้านึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไรให้สนุก ก็ไปดูรายการที่ AKB48 เคยไปออกมาก็ได้ หรือ จะดูรายการฝั่งเกาหลีก็ได้ครับ ไม่ว่ารายการของใคร เขาก็มีวิธี "ชูสินค้า" อยู่แล้ว คือถ้าตัดต่อไปเยอะแล้ว ก็ช่วยเพิ่ม "ป้าย" เพิ่มกราฟฟิค ลด Sound Effect แปลกๆ ลงไปในช่วง Post Productionได้ครับ ถ่ายซ่อมก็ได้ครับ คือ มันรับไม่ได้ในหลายจุดจริงๆ
คะแนนตอนแรก 15 / 100
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น