วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560

สรุปเรื่องราวของไอดอลไทย ปี 2017 ในมุมมองจ่ากบ


สวัสดีปีใหม่ครับ

ปี 2017 ที่ผ่านมานั้น สำหรับคนไทยที่ตามวงการไอดอลแล้ว ก็เป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก โดยเฉพาะการมาของ BNK48 และ SWEAT16! ซึ่งเป็นวงไอดอลแบบญี่ปุ่น เชื่อชาติไทย (คือมีแนวทางแบบวงญี่ปุ่น แต่เมมเบอร์ส่วนใหญ่เป็นคนไทย) ในปีที่แล้วผมเอนเอียงมาทางไอดอลไทยๆ มากในปี 2017 นี้ เลยมาขอสรุปคร่าวๆ ไว้เป็นบันทึกกันลืมละกันนะ อาจจะเขียนสั้นๆ นะครับ


BNK48

ต้องยอมรับว่า ตอนที่เปิดตัวเมมเบอร์ BNK48 บนเวที JAPAN EXPO 2017 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2017 นั้น คนที่เป็นแฟนคลับของAKB48 ต่างกันให้ความสนใจกันพอสมควร แม้ว่าผมที่เป็นแฟนของ48กรุ๊ปเองก็ตื่นเต้นกับการปรากฎตัวของพวกเธอ แต่จริงๆ แล้ว ผมก็รู้สึกว่า วงน้องของAKB48 ก็ควรจะเปิดตัวด้วยการแสดงสักเพลงก็ยังดี

เวลาล่วงเลยไป เดือนมีนาคม 2017 ทีมงานBNK48ก็เล่นวิธีลัด ด้วยการผลิตรายการทีวี BNK48 SENPAI ซึ่งเป็นการติดตามชีวิตเมมเบอร์ทั้ง29 คน ตั้งแต่ออดิชั่นไปจนถึงการฝึกและแบ่งเวลาไปเก็บเรื่องราวในชีวิตของน้องๆ เท่าที่จะเผยแพร่ได้ แม้จะโดนด่าในช่วง 5 ตอนสุดท้ายที่เป็นการพาเที่ยวญี่ปุ่นก็ตามที

แต่หลังจากรายการได้ออกอากาศไป ก็สร้างกระแสให้กับคนที่ชอบดู ดราม่า หรือเรื่องราวกว่าจะเป็นดาวได้ประมาณนึง ซึ่งเอาจริงๆ ผมก็มองว่าประหลาดๆ เพราะระหว่างนี้ถ้ามีการเปิดเผยเพลงหรือปล่อย MV ออกมาสักเพลงที่ใช้เมมเบอร์ทั้งหมดมาแสดงก็ทำได้ แต่ก็ไม่มี ปล่อยให้คนดูค้างคากับดราม่าไปเรื่อยๆ

จนเดือน มิถุนายน 2017 BNK48 ก็จัดงานวันเดบิวต์ พร้อมกับประกาศเซ็มบัตสึ 16 คน ออกมาด้วยเพลง Aitakatta, Oogoe Diamond และ 365วันกับเครื่องบินกระดาษ และวันถัดไปก็ร่วมแสดงกับ AKB48 Team 8 บนเวที VIRAL MUSIC FEST หลังจากนั้น BNK48 ก็เริ่มออกโรดโชว์โปรโมทเพลงไปตามห้างในเครือ The Mall พร้อมๆ กับการมาของรายการทีวี BNK48 SHOW! ซึ่งเปลี่ยนแนวจากรายการ Documentary เป็นรายการวาไรตี้แบบแบ่งทีมแข่งคล้ายบางตอนของรายการ AKBINGO! แต่ก็ยังทำได้ไม่น่าประทับใจนัก (แต่ดีขึ้นตามลำดับล่ะนะ) และต่อด้วยการขาย CD Single และงานจับมือครั้งแรกที่ขลุกขลักจนผมเขียนบ่นไปหลายครั้ง (แต่เห็นว่าในงานครั้งต่อๆไป ก็ปรับปรุงขนานใหญ่แล้ว)

แต่กว่าที่ BNK48 จะกลายเป็นกระแสแรงๆ ก็ต้องเมื่อมีเปิดตัวเพลง Koisuru Fortune Cookies ที่ตามรอยความสำเร็จที่ AKB48 ทำไว้เมื่อปี 2013 ด้วยการฮิตทั้งบ้านทั้งเมือง แม้แต่ศิลปินไทยหลายต่อหลายคนก็เอาไปคัฟเวอร์กันมากมาย ก่อนที่จะมาโดนคนในเน็ตเล่นงานเรื่อง Music Video ซึ่งดราม่าที่เพลง Aitakatta ไม่มี MV ก็มาที่ Koisuru Fortune Cookies ที่ถ่ายทำและตัดต่อไม่น่าพอใจ

แต่แม้ชาวเน็ตจะติชมกันแค่ไหน แต่ชื่อเสียงของ BNK48 ก็เพิ่มพูนอย่างน่าทึ่ง พร้อมทั้งได้แฟนหน้าใหม่ที่อาจจะไม่เคยตามไอดอลญี่ปุ่นมาก่อนเข้ามาเป็นฐานแฟนมหาศาลในช่วงเวลา11เดือนเช่นกัน แม้จะมีอะไรติดๆ ขัดๆ ตลอดเวลา แต่ก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว (ในแง่สร้างฐานแฟนได้)

โดยตัวเมมเบอร์แล้วอาจจะไม่น่าห่วงอะไร เพียงแต่น่าเป็นห่วงว่าทีมงานของBNK48จะคงชื่อเสียงนี้ไว้ได้นานแค่ไหนเสียมากกว่า เพราะโดยความเป็นจริงแล้ว จะเห็นว่าทีมงานก็มักจะก่อดราม่าหลากหลายเลย ทั้งในเรื่องของการเลื่อนการเปิดเธียเตอร์ไปเรื่อยๆ จากสิงหาคม 2017 เป็นต้นปี 2018 แทน แล้วยังมีเรื่องของบัตรฟาวเดอร์ซึ่งมีราคาสูงถึง 20,000 บาทอีก รวมไปถึงการทำงานที่ค่อนข้างไม่เรียบร้อยอีกหลายเรื่อง


SWEAT16!

อีกด้านคือ SWEAT16! วงในสังกัดของ บ.โยชิโมโตะ ซึ่งออดิชั่นในช่วงเวลาใกล้เคียงกับ BNK48 แต่ก็ทำการออดิชั่นจบตั้งแต่ปี 2016 และมีการออกงานแบบเล็กๆ ในงาน CAT T-SHIRT ต้นปี 2017 ซึ่งเป็นงานที่แทบจะหาคนสายไอดอลไปเดินแทบไม่ได้ และมีการไปออกงานอีกครั้งในช่วงต้นปี 2017  และหายหน้าหายตาไปเฉยๆ จนกลับมาพร้อมชื่อวงว่า SWEAT16! และเปลี่ยนคอนเซปต์จากวงไอดอลปกติ เป็นวงไอดอลที่เน้นไปในด้านการกีฬา และร่วมมือกับค่ายเพลงไทยอย่างLOVEis และช่วยโปรโมทคอนเสิร์ตของ NMB48 ที่จัดแสดงในช่วงสิงหาคม 2017

SWEAT16! ออกแสดงอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกในงาน JAPAN EXPO เดือนกันยายน พร้อมกับมีกิจกรรมเชกิ (ถ่ายรูปโพลารอยด์) แบบเล็กๆ ขึ้น ซึ่งการแสดงของ SWEAT16! ที่มีแนวเพลงเป็นเพลงเร็วและเต้นกันเร็วมากนั้น ก็มองเห็นได้ว่า เมมเบอร์มีความพร้อมเพรียงขนาดไหน และเข้าสูตรการเปิดตัวด้วยการแสดงที่ผมเคยพูดถึงด้วยแล้ว  (และจนป่านนี้ก็ยังไม่มี Documentary ของวงให้เราได้ดูกัน)

แต่กว่าSWEAT16! จะเปิดตัวจริงจังก็คือเดือนตุลาคม 2017 (SPORTS DAY) ซึ่งจัดอย่างน่าสนใจเพราะเป็นทั้งงานแข่งกีฬาและงานแสดงคอนในสนามบาส ซึ่งถือว่าเปิดตัวได้สนุก และมีเพลงใหม่เปิดตัวในงานอีกด้วย เรียกได้ว่าใครได้ลองไปดูน่าจะประทับใจวงนี้ได้ไม่ยากเลย  แต่น่าเสียดายที่ ตุลาคม 2017 เป็นเดือนที่มีราชพิธีของรัชกาลที่ 9 จึงงดกิจกรรมบันเทิงทั้งหมด ทำให้การเปิดตัวที่สนุกนั้นไม่มีความต่อเนื่องไปเสียอย่างนั้น และพอเข้าเดือนพฤศจิกายน 2017 SWEAT16! ก็เริ่มทยอยส่ง 1st Single "วิ่ง" ให้ลูกค้า แต่ก็ทำสินค้าออกมาไม่ค่อยโดนใจแฟนคลับนัก จนถึงกับมีการประกาศจะชดเชยด้วยการส่งCDให้ใหม่เลยทีเดียว จากนั้น SWEAT16! ก็มีงานคอนเสิร์ต TOKYO CONNECTION! ร่วมกับศิลปินร่วมค่ายโยชิโมโตะ จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งน่าเสียดายที่งานนี้ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้ชมเท่าใดนัก แม้คอนเสิร์ตจะสนุกมากก็ตามที

ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2017 นั้นเรียกได้ว่า SWEAT16! โชว์ตัวออกอีเวนท์กันแทบทุกสัปดาห์ และบางสัปดาห์ก็หลายวันต่อเนื่องเหมือนตั้งใจจะชดเชยที่ไม่สามารถจัดงานได้ในช่วงตุลาคม 2017 แต่น่าเสียดายที่เท่าที่ดูแล้วแฟนคลับของ SWEAT16! ยังมีจำนวนไม่มาก ก็ไม่รู้ว่าเพราะสื่อยังไปไม่ถึงหรือ โดนต้อนไปทางอีกวงไปหมดแล้วกันแน่ อันนี้ทางบริษัทจะต้องทำการบ้านกันอีกมากเลย เพราะจำนวนแฟนน้อยไป ก็ทำธุรกิจยาก

สรุป

ในปี 2017 นั้นหากคุณลงมาตามไอดอลไทย 2 วงนี้ คุณจะรู้สึกว่าวันเวลา 1 ปีมันช่างยาวนานเหลือเกิน เพราะมีเรื่องราวมากมาย (เป็นดราม่าในเน็ตซะ 90%) แม้จะมีแต่อะไรขลุกขลั่กจนน่ารำคาญ และกลับไปตามแต่วงญี่ปุุ่นน่าจะดี แต่การได้เห็นว่าวงการเพลงไทยมีอะไรใหม่ๆ ให้ติดตามก็เป็นเรื่องดีแล้วล่ะครับ (ตัวจ่ากบเองไม่ได้ตามวงการเพลงไทยเลยนะ ในช่วง 20 กว่าปีมานี้)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม